สุดยอด 5 ลิปบาล์ม น่าใช้ เหมาะกับยุคไฮเทค อัพเดทล่าสุดปี 2567

ช้อปสบายๆ ในราคาสุดคุ้ม ชวนคุณมาช้อปออนไลน์กับสินค้าคุณภาพดี จากหลากหลายแบรนด์ดัง มีคูปอง จัดส่งฟรี ส่งด่วน การชำระเงินที่ปลอดภัย อัพเดท รายละเอียดแบรนด์ โปรโมชั่น ส่วนลด คูปองส่วนลด สำหรับการสั่งครั้งแรก โปรฯแบรนด์ดังทุกหมวดหมู่ลดเยอะมาก
ราคาเด็ดถุกใจลุกค้าแน่นอน ราคาที่ไม่แพง เราแนะนำเลยเจ้านี้ ลิปบาล์ม  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง ลิปบาล์ม  ไป ราคาถูกกว่าซื้อห้าง สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อลิปบาล์มแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง ลิปบาล์ม นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในลิปบาล์มอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ ลิปบาล์มแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้
(4หลอด หลอดลิปสติก หลอดลิปบาล์ม หลอดลิปมัน หลอดลิปเปล่า 4ก Pp กลม Cg2 หลายสี หลอดลิปราคาส่ง พร้อมจัดส่ง Lipblam Tube 4G Cod

1. (4หลอด หลอดลิปสติก หลอดลิปบาล์ม หลอดลิปมัน หลอดลิปเปล่า 4ก Pp กลม Cg2 หลายสี หลอดลิปราคาส่ง พร้อมจัดส่ง Lipblam Tube 4G Cod

ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 32.00 บาท
คะแนน :

Magic CASA ลิปบาล์ม ลิปออยล์ ป้องกันริมฝีปากแห้ง ชุ่มชื้น ลูกกลิ้งใส ลิปบาล์มผลไม้

2. Magic CASA ลิปบาล์ม ลิปออยล์ ป้องกันริมฝีปากแห้ง ชุ่มชื้น ลูกกลิ้งใส ลิปบาล์มผลไม้

ส่งจาก : Shopee วันที่และค่าจัดส่งจะแสดงที่จุดชำระเงิน
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 12.00 บาท
คะแนน :

ลิปบาล์ม สีผึ้ง ผลิตจากไขผึ้งป่าธรรมชาติและน้ํามันจากธรรมชาติ

3. ลิปบาล์ม สีผึ้ง ผลิตจากไขผึ้งป่าธรรมชาติและน้ํามันจากธรรมชาติ

ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 49.00 บาท
คะแนน :

หลอดลิปบาล์ม 5 ml แพคละ 20 หลอด หลอดลิปมัน หลอดลิป

4. หลอดลิปบาล์ม 5 ml แพคละ 20 หลอด หลอดลิปมัน หลอดลิป

ส่งจาก : Shopee วันที่และค่าจัดส่งจะแสดงที่จุดชำระเงิน
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 119.00 บาท
คะแนน :

ลิปบาล์มจุ๊บุ

5. ลิปบาล์มจุ๊บุ

ส่งจาก : Lazada Thailand จัดส่งฟรี
รีวิว : 0
stock : 0
ราคา : 19.00 บาท
คะแนน :

แม้ว่าฤดูหนาวของประเทศไทยจะได้หายสาบสูญไปนานมากแล้ว แต่อาการปากแห้งยังอยู่คู่กับคนไทยค่ะ! ด้วยเพราะไลฟ์สไตล์การชอบอยู่ในห้องแอร์หรือจิบน้ำไม่เพียงพอ ทำให้หลายคนต้องหาตัวช่วยอย่าง “ลิปบาล์ม” มาใช้ แต่เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีคำถามว่า “ลิปบาล์มคืออะไร” และ “ทำไมถึงให้ความชุ่มชื้นได้” แถมเดี๋ยวนี้คุณเขายังมีหลายรุ่นหลายสูตรให้เลือกเหลือเกิน ซื้อผิดทีอาจผิดหวังเอาได้ และเพื่อไม่ให้เพื่อน ๆ ต้องเจอเหตุการณ์อย่างนั้น ในครั้งนี้ผู้เขียนได้นำข้อมูลดี ๆ มาฝากกันถึง 2 หัวข้อด้วยกันค่ะ!

ก่อนอื่น เราจะไม่มีทางได้สิ่งที่เหมาะกับตัวเองเลยหากไม่รู้จัก “วิธีการเลือก” ซึ่งแต่ละวิธีที่ผู้เขียนนำมาเสนอนั้นทำตามได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ และลำดับต่อมาคือ “10 อันดับ สินค้ายอดฮิตขายดี” ซึ่งผ่านการเปรียบเทียบทั้งราคา, คุณสมบัติและรีวิว เพื่อให้ชาว mybest ได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนการซื้อ ส่วนจะมีอะไรบ้าง เราตามมาอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
มาถึงคำถามธรรมด๊าธรรมดาที่หลายคนอาจจะไม่เคยสงสัยมาก่อน แต่พอลองมองหน้าน้องเขาเราก็จะคิดขึ้นมาว่า “ลิปบาล์มคืออะไร” ในครั้งนี้ผู้เขียนมีคำตอบมาให้กับทุกคนแล้วค่ะ
ลิปบาล์มมีลักษณะคล้ายกับขี้ผึ้ง เนื้อสัมผัสให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะกับการทาริมฝีปากซึ่งเป็นเนื้อเยื่อส่วนที่ค่อนข้างบาง มีโอกาสแห้งกร้านและหมองคล้ำจากการโดนรังสี UV ได้ง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย การทาลิปบาล์มจึงเปรียบเสมือนการรักษาและสร้างเกราะป้องกันให้กับริมฝีปากของเราจากมลภาวะต่าง ๆ
โดยทั่วไปแพ็กเกจของลิปบาล์มที่เราเห็นจะเป็นแบบตลับ ซึ่งจะให้ความชุ่มชื้นและมีเนื้อสัมผัสนุ่มมากกว่าลิปมันแบบแท่ง ทำให้เกลี่ยไปกับริมฝีปากได้ง่ายและให้การปกป้องที่ดีกว่า โดยมีวิธีใช้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้นิ้วแตะ, แปรงทาลิปหรือจะคอตตอนบัดทาก็ได้
เมื่อก่อนทุกคนก็คงจะเลือกลิปบาล์มจากกลิ่น สี หรือแม้แต่แพ็กเกจใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งบางครั้งก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่บางทีก็อาจจะผิดหวังกันไปเพราะลิปไม่ชุ่มชื้นพอ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วค่ะ เพราะวันนี้ผู้เขียนได้นำวิธีการเลือกให้เหมาะกับตัวคุณมาฝากกันแล้ว จะเป็นอย่างไรไปอ่านกันเลย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ลิปบาล์มมีด้วยกัน 3 ประเภท! ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ ได้แก่ “ใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น”, “เพื่อปกป้องไม่ให้ปากแห้งแตก” และ “ฟื้นฟูริมฝีปากที่ขาดการดูแล” ดูเผิน ๆ แล้วคล้ายกัน แต่มีวิธีการเลือกที่แตกต่างกันนะคะ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน
ก่อนอื่นให้ทุกคนลองสังเกตลักษณะของริมฝีปากของเรากันค่ะ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรมาก เช่น ริมฝีปากไม่แห้งแตกและไม่ลอกเป็นขุย ให้คุณเลือกใช้ “ลิปบาล์มประเภทเครื่องสำอาง” ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากในระดับหนึ่ง ซึ่งลิปบาล์มประเภทนี้หาซื้อได้ง่าย มักเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสีระเรื่อนิด ๆ บางรุ่นก็ให้สัมผัสแวววาวแบบพอดี เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบให้ริมฝีปากฉ่ำวาวหรือแมตต์จนเกินไป
สำหรับคนที่มีอาการริมฝีปากแห้งแตกลอกเล็กน้อยให้เห็น ควรเลือกลิปบาล์มจากแบรนด์ที่เป็น “เวชสำอาง” แทนลิปบาล์มจากแบรนด์ที่เน้นความสวยงามค่ะ ซึ่งลิปบาร์มจากแบรนด์เหล่านี้มักไม่ออกสีใด ๆ แต่จะเน้นให้ความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงป้องกันปัญหาปากแตกรุนแรงได้อย่างอยู่หมัด
ส่วนถ้าใครมีริมฝีปากแห้งแตกอย่างรุนแรง แนะนำให้เลือกลิปบาล์มประเภท “ยา” ค่ะ เพราะมีส่วนผสมของสารที่ช่วยรักษาอาการดังกล่าวและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นควรลองไปปรึกษาแพทย์เพื่อได้รับการรักษาเฉพาะด้านค่ะ
เชื่อว่าหลายคนไม่เคยคิดถึงสิ่งนี้ แต่เรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากเลยค่ะ เพราะรังสี UV เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากหมองคล้ำ แห้งกร้านและเหี่ยวหย่น และตามที่เราได้เกริ่นไปในตอนต้น ริมฝีปากเป็นเนื้อเยื่อส่วนที่ไวต่อเจ้ารังสีตัวร้ายนี้มากกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย การเลือกลิปบาล์มให้สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ
เพื่อน ๆ ควรสังเกตว่าในแต่ละวันของเราต้องเจอรังสี UV มากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าต้องรับรังสีนี้มากแนะนำให้เลือกใช้ลิปบาล์มที่มีสารกันแดดค่ะ เพื่อช่วยปกป้องริมฝีปาก อย่างไรก็ตาม สำหรับคนผิวแพ้ง่าย การใช้ลิปดังกล่าวในปริมาณมากหรือบ่อยครั้งจนเกินไปอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ทางที่ดีควรใช้ครั้งละพอประมาณและทาในตอนกลางวันดีกว่าช่วงกลางคืนนะคะ
เพราะแพ็กเกจของลิปบาล์มเป็นแบบตลับ เวลาเปิดฝาจึงมีโอกาสที่เนื้อของลิปจะสัมผัสกับอากาศมาก นอกจากนี้การใช้นิ้วทาลิปยังเพิ่มโอกาสในการสะสมของเชื้อโรคได้มากกว่าแบบแท่ง ก่อนซื้อเพื่อน ๆ จึงควรคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าและตรวจสอบว่าแพ็กเกจป้องกันปัญหาดังกล่าวได้มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญ “ปริมาณของลิปสามารถใช้หมดได้ภายใน 6 เดือนไหม” เพราะถ้านานเกินไป โอกาสที่ลิปจะกลายเป็นที่เพาะเชื้อโรคนั้นมีสูงเชียวค่ะ
นอกจากนี้ลิปบาล์มหลายรุ่นยังพัฒนาสูตรเพื่อใช้กับส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้ด้วย ถ้าใครอยากได้ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมก็ลองซื้อติดกระเป๋ากันดูนะคะ จะได้ช่วยประหยัดเงินชอปปิง
คงจะไม่ดีแน่ถ้าเราไปเที่ยวแล้วริมฝีปากเกิดแห้ง แตก จนเป็นแผลเจ็บ ทานอาหารไม่อร่อย แถมยังทาลิปสติกตกร่องอีก ดังนั้นอีกไอเทมที่สาว ๆ ไม่ควรพลาดที่จะพกไปคือ "Burt’s Bees Replenishing Lip Balm with Pomegranate Oil" มีสารสกัดจากน้ำมันทับทิมที่ล็อคความชุ่มชื้น พร้อมบำรุงริมฝีปากด้วยวิตามินต่าง ๆ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายค่ะ ตัวนี้ทางแบรนด์กล่าวไว้ว่า หากใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ริมฝีปากสีสันสดขึ้น ลดความหมองคล้ำได้อีกด้วยนะคะ สามารถใช้ได้ทั้งก่อนลงลิปสติกปกติและใช้ก่อนนอนเพื่อริมฝีปากอวบอิ่ม ไม่แห้ง ไม่แตกกันนั่นเองค่ะ

สำหรับ Texture ของลิปบาล์มตัวนี้ ทาแล้วสบายปากมากค่ะ ไม่เหนอะหนะเลย รวมถึงกลิ่นก็หอมอ่อน ๆ กำลังดีมาก ในเรื่องของความชุ่มชื้นหากเที่ยวเมืองหนาวสามารถช่วยให้ริมฝีปากสุขภาพดีได้ถึง 3-4 ชั่วโมงเลย แต่จะไม่ค่อยติดทนตามสไตล์ลิปบาล์มนะคะ หากทานน้ำ ทานอาหารก็หลุดไป ต้องหมั่นเติมเรื่อย ๆ นะคะ ปากจะได้ไม่แห้งแตกค่ะ
ตอนนี้ทุกคนก็คงจะรู้แล้วว่าลิปบาล์มลักษณะไหนที่เหมาะกับตัวเอง แต่จะให้ชาว mybest ไปนั่งหาสินค้าอ่านรีวิวเองก็ดูจะยุ่งยากใช่ไหมล่ะคะ ในครั้งนี้ผู้เขียนจึงรวบรวมข้อมูลสินค้าที่น่าสนใจมาให้อ่านกันเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเลือกที่เหมาะสมกับปัญหาริมฝีปากตัวเองมากที่สุดกันนะคะ
ถือเป็นลิปบาล์มของไทยระดับตำนานที่มีคนใช้เยอะ ด้วยส่วนผสมหลักจากรังผึ้งร้างและน้ำมันมะพร้าว ค่อนข้างอ่อนโยนต่อริมฝีปาก มีกลิ่นหอมคล้ายน้ำอบ ไม่มีสี เนื้อค่อนข้างเหนียวหนืด มีความชุ่มชื้นสูง ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในเซลล์ได้ดี พร้อมทั้งกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว แก้ปัญหาริมฝีปากหมองคล้ำ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งหรือลอกเป็นขุย

ข้อเสียเล็กน้อยคือ ปริมาณค่อนข้างน้อยและปัจจุบันมีให้เลือกซื้อแค่ขนาดเดียว ซึ่งอาจยังไม่ครอบคลุมทุกความต้องการ นอกจากนี้ยังไม่เหมาะกับคนที่แพ้เกษรดอกไม้อีกด้วย
ใครที่ตามหาลิปบาล์มมีสารกันแดดแต่ยังบำรุงริมฝีปากได้ดีต้องรีบมาตามซื้อรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะผลิตจากขี้ผึ้ง พร้อมผสานคุณค่าจากจมูกข้าวสาลีและน้ำมันมะกอก ช่วยคืนความชุ่มชื้น พร้อมทั้งปกป้องริมฝีปากจากรังสี UV ด้วย SPF15

ผู้ที่ใช้จริงส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบในเนื้อสัมผัสที่แน่น เมื่อวอร์มแล้วค่อนข้างลื่น เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่ทิ้งคราบและติดทนนาน ช่วยลดอาการปากแห้งได้ดี ริมฝีปากเนียนนุ่ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปากแห้งเล็กน้อย-ปานกลาง แต่ยังมีข้อเสียเล็กน้อยคือราคาค่อนข้างสูง หาซื้อได้เฉพาะตามช็อปของแบรนด์หรือออนไลน์เท่านั้น
Glossier ยังเป็นแบรนด์ที่หาซื้อในไทยยากอยู่แต่เป็นที่ฮอตฮิตอย่างมากในหมู่สาว ๆ วัยรุ่นในต่างประเทศ อย่างแรกเพราะความน่ารักกุ๊กกี๊กของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นหลอดสีสันสดใส โลโก้ดีไซน์เก๋น่าเอาอัพลง IG แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะคุณภาพตัวลิปก็ใช่ย่อย

ลิปบาล์มตัวนี้อุดมไปด้วยส่วนผสมเจ๋ง ๆ อย่างสารสกัด Cupuacu Fruit ที่มีสารโอเมก้า 6 และ 9 ให้ความชุ่มชื่นต่อริมฝีปากและ Rice Bran & Rosemary Leaf Extracts สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง เนื้อบาล์มนุ่มลื่นไม่เสียดสีและมีความวาวแต่ไม่มาก ทั้งยังมีหลายรสให้เลือกเหมาะทั้งกับการใช้ในทุกวันหรือวันพิเศษ ๆ
Fresh เป็นแบรนด์ที่เน้นการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่ได้รับการตอบรับดีมาก ๆ แม้พึ่งเปิดสาขาในประเทศไทยจริงจังได้ไม่นานมานี้ โดยลิปบาล์มสูตรนี้ก็ได้ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการปกป้องความชุ่มชื้นให้ผิวค่ะ

นอกจากน้ำตาลแล้วยังมีวิตามินอีและน้ำมันสกัดจากเมล็ดพืชต่าง ๆ ช่วยให้ริมฝีปากหายจากการแห้งลอก ดูเอิบอิ่ม เนียนเรียบขึ้น ที่ขาดไม่ได้คือกลิ่นและรสชาติราวกับคาราเมลจริง ๆ ที่โดนใจจนผู้ใช้ถึง 98% แนะนำให้คนอื่นใช้ต่อค่ะ
อีกหนึ่งลิปบาล์มที่โด่งดังในโลกโซเชียลอย่างมาก ด้วยกลิ่นหอมหวานเป็นเอกลักษณ์ เนื้อลิปทำจากขี้ผึ้ง ผสานด้วยคุณค่าจากสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย เช่น เชียร์บัตเตอร์, น้ำมันแมคคาเดเมี่ยและน้ำมันเมล็ดคาเมลเลีย อุดมไปด้วยวิตามิน อี ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ลดร่องลึกของปาก ปรับให้แลดูเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการป้องกันปากแห้งหรือมีอาการเล็กน้อย-ปานกลาง

เนื้อลิปเป็นสีขาว ควรวอร์มก่อนใช้ ทาแล้วซึมซาบไว ไม่เหนอะหนะปาก กักเก็บน้ำในเซลล์ไว้ได้นาน เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องผู้ใช้หลายคนรู้สึกว่าสีปากอ่อนลง เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากคล้ำเลยค่ะ
มาถึงลิปบาล์มจากแบรนด์ที่หลายคนคงคุ้นเคยกันดี เพราะหาซื้อค่อนข้างง่าย โดยรุ่นนี้เป็นสูตร “เย็น” มาพร้อมเนื้อสัมผัสเนียนลื่น สามารถแตะใช้ได้เลยโดยไม่ต้องวอร์ม เมื่อทาแล้วจึงรู้สึกสดชื่น เนื้อซึมซาบไว ไม่ทิ้งความเหนอะ ริมฝีปากชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม เหมาะกับคนที่ต้องการป้องกันอาการปากแห้งหรือมีอาการอย่างรุนแรง

รุ่นนี้มีปริมาณค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับราคา โดยทาครั้งหนึ่งใช้ในปริมาณที่ไม่เยอะ ทำให้ 1 กระปุกใช้ได้นาน อย่างไรก็ตาม กลิ่นค่อนข้างจะคลายยาหม่องเย็น ๆ ใครที่กลัวจะไม่ถูกใจควรลองดมด้วยตัวเองหรืออ่านรีวิวประกอบมากขึ้น
ถ้าพูดถึงลิปบาล์มหลายคนคงนึกถึงแบรนด์นี้ เพราะมีให้เลือกหลากหลายแพ็กเกจและหลายกลิ่น สำหรับรุ่นนี้จะเน้นกลิ่นโทนผลไม้ผสมกับดอกไม้ ซึ่งผู้ที่ใช้จริงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากลิ่นหอมหวานคล้ายขนม เนื้อสัมผัสแน่นต้องวอร์มก่อนใช้ ทาแล้วให้ความชุ่มชื้นพอเหมาะ เหมาะสำหรับการทาเพื่อป้องกันไม่ให้ปากแห้ง

เนื้อลิปผสานคุณค่าจากพืชพรรณธรรมชาติ ได้แก่ เชียร์บัตเตอร์ น้ำมันเมล็ดอัลมอนด์และน้ำมันเมล็ดละหุ่ง เพื่อน ๆ จึงมั่นใจได้ว่าใช้แล้วจะอ่อนโยนต่อผิว แต่สำหรับแพ็กเกจอาจมีขนาดใหญ่กว่าลิปบาล์มทั่วไป ใครที่ต้องการพกติดตัวไว้หยิบขึ้นมาทาอาจต้องมองหารุ่นอื่นค่ะ
ลิปไข่ในตำนานที่สาว ๆ ตามหากันให้ควั่ก เป็นที่เลื่องลือกันมานานว่า “ชุ่มชื้นและกลิ่นหอม” ด้วยเนื้อลิปแน่นไม่ละลายเยิ้ม ไม่มีสี แพ็กเกจใช้งานสะดวก ด้านข้างมีส่วนเว้าสำหรับจับ สามารถใช้ทาไปกับริมฝีปากได้เลยโดยไม่ต้องใช้นิ้วแตะ ช่วยลดการสะสมเชื้อโรค เหมาะสำหรับคนที่ต้องการป้องกันปากแห้งและบำรุงขั้นพื้นฐาน

อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “ส่วนผสม” เพราะเกือบทั้งหมดมาจากธรรมชาติ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ โดยปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายกลิ่น
อีกหนึ่งลิปบาล์มที่โด่งดังมีคนเลือกใช้กันเยอะมาก โดยรุ่นนี้เป็นสูตรไม่มีสี เน้นการบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากโดยเฉพาะ สามารถป้องกันริมฝีปากแห้งแตกอย่างรุนแรงได้อย่างชะงัด เหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่มีปัญหาปากแห้งลอกจนแตกเป็นร่อง ๆ ได้ง่าย

เนื้อลิปอุดมไปด้วยสารสกัดจากโกโก้บัตเตอร์ สัมผัสเนียนลื่น ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นเบา ๆ สามารถทาโดยไม่ต้องวอร์ม หลังใช้แล้วผู้ที่ใช้จริงต่างรู้สึกว่าริมฝีปากเนียนนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องพบว่าสีปากอ่อนลง แลดูมีสุขภาพดี
สำหรับอันดับ 1 ของเราจะยกให้ใครเป็นไปไม่ได้นอกจากลิปบาล์มรุ่นนี้ ด้วยส่วนผสมทั้งหมดจากปิโตรเลียมเจล เนื้อลิปมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สัมผัสเนียนลื่น แต้มทาได้ทันทีโดยไม่ต้องวอร์ม เกลี่ยง่าย เนื้อบางเบาซึมซาบไว มีโทนสีค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ทาแล้วริมฝีปากชุ่มชื้นเนียนนุ่มและระเรื่อดูสุขภาพดี เหมาะสำหรับทุกคน

รุ่นนี้มีด้วยกัน 2 แพ็กเกจ ขึ้นอยู่กับความจุ โดยขนาดเล็กจะเป็นกระปุกซึ่งพกพาได้สะดวก ส่วนขนาดใหญ่จะเป็นตลับ นอกจากนี้ยังมีหลายกลิ่นและหลายสีให้เลือก ครอบคลุมทุกความต้องการ
นอกเหนือจากการซื้อลิปบาล์มดี ๆ สักชิ้นหนึ่งแล้ว การทาลิปบาล์มอย่างถูกวิธีก็เป็นอีกตัวช่วยให้ริมฝีปากของคุณมีสุขภาพดีขึ้น เพราะตามธรรมชาติของริมฝีปากเรามีชั้นผิวหนังที่บางมาก ชั้นไขมันที่เอาไว้ป้องกันผิวจากการระคายเคืองต่าง ๆ ก็น้อยมากไปด้วยเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ถ้าทาลิปไม่ถูกวิธีอาจทำให้ผิวเสียสมดุลและได้ผลลัพธ์ที่แย่ลงไปกว่าเดิมได้
เคล็ดลับในการทาลิปบาล์มให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดมีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำตามได้ง่าย ๆ ส่วนจะมีอะไรบ้าง ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ
หลาย ๆ คนอาจเคยคิดว่าถ้าปากแห้งก็ทาลิปเยอะ ๆ สิ จะได้หายสักที แต่อะไรที่มากเกินไปมักไม่ดีค่ะ การสัมผัสริมฝีปากที่แห้งอยู่แล้วบ่อย ๆ จะยิ่งกระตุ้นให้เป็นหนักมากขึ้น ควรทาเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากแห้งมากเท่านั้น หรือทาหลังแปรงฟัน, อาบน้ำ รวม ๆ แล้วพยายามไม่ให้เกินวันละ 5 ครั้ง เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ
สำหรับใครที่ชอบเติมลิปบาล์มบ่อย ๆ เพราะปากแห้งไวเสียเหลือเกิน แนะนำให้ลดความถี่ลงนะคะ เพราะการเติมความชุ่มชื้นหรือฉาบสารต่าง ๆ เคลือบริมฝีปากมากเกินไป จะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองได้ค่ะ
เนื้อลิปบาล์มมักถูกบีบอัดใส่ในตลับ ซึ่งแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีความนิ่มต่างกันไป แต่สำหรับชนิดที่ค่อนข้างแน่น แนะนำให้เพื่อน ๆ วอร์มลิปด้วยนิ้วมือให้ละลายจนเนื้อนุ่มก่อนจะทานะคะ เพราะถ้าทาตอนที่ครีมยังแข็งอยู่ เราจะต้องออกแรงถูเนื้อลิปกับริมฝีปากมากกว่าปกติ ซึ่งเสี่ยงที่อาการแห้งลอกจะรุนแรงมากขึ้น ผลสุดท้ายปากอาจจะพังได้นะจ๊ะ
นอกจากนี้ การใช้นิ้วทาลิปยังดีกว่าการใช้แปรงทา เพราะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดในบริเวณดังกล่าวให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ริมฝีปากของเราแลดูมีสุขภาพดี
ถ้าใครเคยสังเกตจะเห็นว่าริมฝีปากของเราไม่ได้เรียบเนียน แต่จะมีเส้นร่องปากอยู่ วิธีทาลิปที่ถูกต้องจึงควรทาไปตามแนวเส้นร่องปาก (แนวตั้ง) เพราะถ้าคุณทาในทางตรงกันข้าม (แนวนอน) การเสียดสีจะยิ่งกระตุ้นให้ริมฝีปากยิ่งแห้งและแตกเป็นร่องลึกมากยิ่งขึ้น โดยวิธีนี้นอกจากจะไม่ทำให้ระคายเคืองเพิ่มแล้ว ยังช่วยให้ร่องปากที่แห้งได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่อีกด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่สาว ๆ ควรหลีกเลี่ยง คือ “การเม้มแล้วขยับปากซ้ายขวาหรือขึ้นลงหลังทาเสร็จ” เพราะริมฝีปากที่แห้งจะยิ่งเสียดสีกัน อาการอาจยิ่งหนักขึ้น
ตอนนี้หลายคนคงจะทราบแล้วว่าการเลือกซื้อลิปบาล์มมีอะไรมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากไอเทมชิ้นนี้จะช่วยบำรุงแล้วยังช่วยกู้ริมฝีปากให้กลับมามีสุขภาพดี ดังนั้นก่อนการซื้อทุกครั้ง เพื่อน ๆ อย่าลืมทำตามวิธีที่ผู้เขียนแนะนำกันนะคะ จะได้มีริมฝีปากที่สวยสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ การศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ก่อนการซื้อก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้ได้สินค้าที่เหมาะกับคุณมากที่สุด สุดท้ายนี้ถ้าใครสนใจสั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์ อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือกันด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดซื้อสินค้าคุณภาพแย่มาใช้จนทำให้ริมฝีปากสวย ๆ ของคุณมีสุขภาพแย่ไปกว่าเดิม
Subscribr Now

Get All New Job Notification