1. กระชังน้ํา กระชังปลา สําเร็จรูป เลี้ยงปลา/เลี้ยงกุ้ง/เลี้ยงหอย/เลี้ยงกบ สูง1.20เมตร
อ่างเลี้ยงปลาสําเร็จรูป: กวาดแตกหรือจางหายไปภายใต้การเล่นที่มีความต้องการมากที่สุด สัตว์ เลี้ยง ลูก
ลิง: รูปร่างโค้งมนพร้อมที่จับที่สะดวกสบาย
กระชังเลี้ยงกุ้งฝอย: ก่อสร้างขึ้นยากที่จะแนบไปกับใบมีด กระชังบก 2 3
เมตร: รูปร่างกลวงออกเพื่อการจัดการและการจัดตําแหน่งที่สมบูรณ์แบบ
กระชังบกเลี้ยงปลา: ห่างจากแสงแดดโดยตรง กระชังน้ําพร้อมส่ง ขนาด ความกว้าง หลาXเมตร ลึก 120 เมตร เป็นกระชังสําเร็จรูปเย็บแน่น มีหูทุกสี่มุม เย็บไม่เบี้ยว ผ้ามุ้งหนา ได้มาตรฐานโรงงาน ขนาด กว้าง X ยาว X ความลึก 2 หลา X 2 เมตร X1.20 เมตร 2 หลา X 3 เมตร X1.20 เมตร 2 หลา X 4 เมตร X1.20 เมตร 3 หลา X 3 เมตร X1.20 เมตร 3 หลา X 4 เมตร X1.20 เมตร จัดส่งทุกวันไม่มีวันหยุด ข้อแนะนําจากร้านไม่ควรตัดโคลงกระชังไว้ก่อน การเลือกสถานที่ การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดในการดําเนินกิจการเลี้ยงปลาในกระชัง เพราะแหล่งน้ําที่อุดมสมบูรณ์ จะส่งผลให้ปลาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีอัตราการรอดสูง เป็นการทุ่นค่าใช้จ่าย ทําให้ผู้เลี้ยงได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า การเลือกสถานที่ควรพิจารณาถึงปัจจัยเหมาะสม โดยสามารถแยกออกเป็น 2 ประการ คือ 1 คุณสมบัติ ของน้ํา น้ําต้องมีคุณสมบัติ ที่ดีและมีปริมาณเพียงพอตลอดทั้งปี ตัวบ่งชี้คุณสมบัติ ของน้ํา ได้แก่ ปริมาณออกซิเจน ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ํามีความจําเป็นต่อการดํารงชีวิตของสัตว์น้ํา มีผลต่อการเจริญเติบโต และอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ ความต้องการปริมาณออกซิเจนมีความแตกต่างกันในปลาแต่ละชนิด และขึ้นอยู่กับนิสัยการเคลื่อนไหว โดยปริมาณออกซิเจนที่พอดีสําหรับปลาหลายชนิด คือ 6 พีพีเอ็ม แหล่งน้ําที่ตรึงกระชังควรมีปริมาณออกซิเจนในน้ําในช่วงเช้า 6 พีพีเอ็ม หรือสูงกว่า ผู้เลี้ยงจึงควรหลีกเลี่ยงแหล่งน้ําเสียที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมและครัวเรือน อุณหภูมิ ปลาบางชนิดหากมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้ําอย่างกะทันหัน อาจตายหรือชะงักการกินอาหารและอ่อนเพลีย ในการเลือกสถานที่ควรเลี่ยงบริเวณใกล้โรงงานที่ปล่อยน้ําร้อนลงในแหล่งน้ํา ความเป็นกรด-ด่าง น้ําที่เหมาะสมสําหรับการเลี้ยงปลาควรมี pH ระหว่าง 6.5-8.5 สําหรับแหล่งน้ํากร่อยโดยทั่วไปควรมี pH อยู่ในช่วง 7.5-9.0 ค่อนข้างเป็นด่างเล็กน้อย น้ําจืดที่เป็นกรดทําให้ปลาอ่อนแอเป็นโรคได้ง่าย ระดับความลึกของน้ํา บริเวณที่ตรึงกระชังควรมีความลึก 4 เมตร หรืออย่างน้อยควรให้ก้นกระชังห่างจากพื้นน้ํา 1 เมตร ในขณะที่น้ําต่ําสุด เพื่อไม่เป็นการรบกวนสัตว์หน้าดินโดยไม่จําเป็น และยังช่วยลดการติดเชื้อของปลาให้น้อยลงด้วย กระแสน้ํา กระแสน้ําจะช่วยพัดพาเศษอาหารและของเสียออกไปนอกกระชัง เกิดการถ่ายเทของน้ํา ถ้ากระแสน้ําไหลแรงมากเกินไป ปลาจะต้องใช้พลังงานส่วนหนึ่งในการทรงตัวทําให้เจริญเติบโตช้า แต่ถ้ากระแสน้ําไหลช้าเกินไป จะทําให้เกิดการหมักหมมในกระชัง อัตราความเร็วของกระแสน้ําที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 0.2-0.5 เมตรต่อวินาที อาหารธรรมชาติ แหล่งน้ําที่มีอาหารธรรมชาติ เช่น แพลงค์ตอน ลูกกุ้ง ลูกปลา ที่อุดมสมบูรณ์จะมีส่วนช่วยให้ปลาเจริญเติบโตและแข็งแรง พื้นน้ํา การเลี้ยงปลาในกระชังสามารถทําได้ทุกสภาพพื้นน้ํา แต่ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกลักษณะพื้นน้ําที่เป็นเลนปนทราย เพื่อสะดวกในการทอดสมอ และไม่มีสารอินทรีย์สะสมมากเหมือนพื้นน้ําที่เป็นดินโคลน หรือ ดินเลน ความเค็ม ในกรณีที่เลี้ยงปลาน้ํากร่อยหรือปลาทะเล ควรเลือกแหล่งน้ําที่มีความเค็มคงสภาพอยู่เป็นเวลานาน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงความเค็มอย่างกะทันหัน 2 สภาพแวดล้อม หมายถึง สถานที่ใกล้แหล่งพันธุ์ปลา สามารถหาซื้ออาหารได้ง่ายและราคาถูก มีการคมนาคมที่สะดวกเป็นประโยชน์ในการลําเลียงพันธุ์ปลาและอาหาร หาแรงงานในท้องถิ่นได้ง่าย ไม่มีโจรผู้ร้าย ปราศจากศัตรูและภัยธรรมชาติ และไม่ขัดต่อกฎหมายการทําประมงและการสัญจรทางน้ํา การเลือกสถานที่ การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดในการดําเนินกิจการเลี้ยงปลาในกระชัง เพราะแหล่งน้ําที่อุดมสมบูรณ์ จะส่งผลให้ปลาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีอัตราการรอดสูง เป็นการทุ่นค่าใช้จ่าย ทําให้ผู้เลี้ยงได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า การเลือกสถานที่ควรพิจารณาถึงปัจจัยเหมาะสม โดยสามารถแยกออกเป็น 2 ประการ คือ 1 คุณสมบัติ ของน้ํา น้ําต้องมีคุณสมบัติ ที่ดีและมีปริมาณเพียงพอตลอดทั้งปี ตัวบ่งชี้คุณสมบัติ ของน้ํา ได้แก่ ปริมาณออกซิเจน ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ํามีความจําเป็นต่อการดํารงชีวิตของสัตว์น้ํา มีผลต่อการเจริญเติบโต และอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ ความต้องการปริมาณออกซิเจนมีความแตกต่างกันในปลาแต่ละชนิด และขึ้นอยู่กับนิสัยการเคลื่อนไหว โดยปริมาณออกซิเจนที่พอดีสําหรับปลาหลายชนิด คือ 6 พีพีเอ็ม แหล่งน้ําที่ตรึงกระชังควรมีปริมาณออกซิเจนในน้ําในช่วงเช้า 6 พีพีเอ็ม หรือสูงกว่า ผู้เลี้ยงจึงควรหลีกเลี่ยงแหล่งน้ําเสียที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมและครัวเรือน อุณหภูมิ ปลาบางชนิดหากมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้ําอย่างกะทันหัน อาจตายหรือชะงักการกินอาหารและอ่อนเพลีย ในการเลือกสถานที่ควรเลี่ยงบริเวณใกล้โรงงานที่ปล่อยน้ําร้อนลงในแหล่งน้ํา ความเป็นกรด-ด่าง น้ําที่เหมาะสมสําหรับการเลี้ยงปลาควรมี pH ระหว่าง 6.5-8.5 สําหรับแหล่งน้ํากร่อยโดยทั่วไปควรมี pH อยู่ในช่วง 7.5-9.0 ค่อนข้างเป็นด่างเล็กน้อย น้ําจืดที่เป็นกรดทําให้ปลาอ่อนแอเป็นโรคได้ง่าย ระดับความลึกของน้ํา บริเวณที่ตรึงกระชังควรมีความลึก 4 เมตร หรืออย่างน้อยควรให้ก้นกระชังห่างจากพื้นน้ํา 1 เมตร ในขณะที่น้ําต่ําสุด เพื่อไม่เป็นการรบกวนสัตว์หน้าดินโดยไม่จําเป็น และยังช่วยลดการติดเชื้อของปลาให้น้อยลงด้วย กระแสน้ํา กระแสน้ําจะช่วยพัดพาเศษอาหารและของเสียออกไปนอกกระชัง เกิดการถ่ายเทของน้ํา ถ้ากระแสน้ําไหลแรงมากเกินไป ปลาจะต้องใช้พลังงานส่วนหนึ่งในการทรงตัวทําให้เจริญเติบโตช้า แต่ถ้ากระแสน้ําไหลช้าเกินไป จะทําให้เกิดการหมักหมมในกระชัง อัตราความเร็วของกระแสน้ําที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 0.2-0.5 เมตรต่อวินาที อาหารธรรมชาติ แหล่งน้ําที่มีอาหารธรรมชาติ เช่น แพลงค์ตอน ลูกกุ้ง ลูกปลา ที่อุดมสมบูรณ์จะมีส่วนช่วยให้ปลาเจริญเติบโตและแข็ง